องค์กรโตและตันเพราะผู้นำ
- WINTEGRATE99
- Sep 21, 2021
- 1 min read

ทุกๆองค์กรที่สามารถยืนหยัดได้เกิน 5 ปีนั้นถือว่าสอบผ่านในแง่ของการดำเนินงานให้เกิดความต่อเนื่อง และถือได้ว่าสินค้าและบริการเป็นสิ่งที่มีความต้องการจริง ซึ่งเบื้องหลังของความสำเร็จนั้นมักมากจากความทุ่มเทของผู้ก่อตั้งที่ต้องการปั้นธุรกิจหรือหน่วยงานของตนให้รอดและเป็นไปตาม Passion และความถนัดของตน บ้างเป็นนวัตกรตัวยง บ้างเป็นนักบริหารที่สามารถสร้างระบบการผลิตหรือการบริการที่มีมาตรฐานสูง บ้างเป็นนักเสาะหาสินค้าที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย บ้างเป็นนักการตลาดหรือนักสร้างคอนเน็กชั่น และมีผู้ก่อตั้งอีกหลายคนที่ถนัดในการใช่พระเดชพระคุณในการซื้้อใจพนักงาน โดยตนเองไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเชิงเทคนิคโดยตรง
ความสำเร็จที่ผ่านมาย่อมยืนยันความสามารถของผู้ตั้ง แต่หากต้องการให้ธุรกิจเติบโต หรือขยายขีดความสามารถให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเปรียบเสมือนการขับเครื่องบินข้ามทวีป การพึ่งสไตล์การการดำเนินธุรกิจแบบเดิมต่อไปก็ไม่ต่างกับการกับการใช้นักบินเพียงคนเดียวในการขับเคลื่อนเครื่องบินตลอดการเดินทาง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมาก
เป็นที่ทราบกันดีว่า แม้นักบินจะต้องผ่านการฝึกมาอย่างมากมายจึงจะทำการบินได้ แต่ในการปฏิบัติจริงนักบินมีความสำคัญแค่ตอน Take off กับ Landing และเมื่อมีเหตุการณ์ไม่ปกติระหว่างการเดินทาง ที่จำเป็นต้องอาศับการตัดสินใจของมนุษย์ที่ยังคงทำได้ดีกว่าระบบคอมพิวเตอร์ นอกนั้นหน้าที่ของนักบินเป็นเพียงผู้ควบคุมระบบการทำงานอัตโนมัติต่างๆ เท่านั้น ซึ่งคล้ายกับองค์กรขนาดใหญ่ ที่ผู้บริหารมีหน้าที่ตดสินใจเฉพาะเรื่องที่ต่างไปจากการดำเนินงานปกติที่มีผู้รับผิดชอบมืออาชีพรับผิดชอบอยู่แล้ว
ฟังดูเข้าใจได้ไม่ยาก แต่หลายองค์กรโดยเฉพาะธุรกิจ SME ยังคงติดกับดักการใช้รูปแบบเดิมในการบริหารงานจนกลายเป็นสาเหตุหลักของการไม่สามารถปรับตัวไปสู่การบริหารงานแบบองค์กรมืออาชีพได้
สัญญาณที่จะช่วยบอกว่าการบริหารงานแบบเดิมเริ่มมีปัญหา คือ
ในการประชุมผู้บริหารแต่ละครั้งแทบไม่มีผู้เข้าร่วมคนใดแสดงความเห็นใดๆ แต่เมื่อสั่งการไปแล้วก็มีแต่ข้ออ้างของความไม่สำเร็จ
พนักงานที่ตอนสัมภาษณ์งานดูไฟแรง แต่เมื่อทำงานจริงกลับไม่แสดงฝีมืออย่างที่คาดหวัง
อัตราการลาออกสูงหรือต่ำผิดปกติ เมื่อเทียบกับคู่แข่ง
อาการทั้ง 3 นี้สะท้อนสไตล์การทำงานของผู้ก่อตั้งเป็นแบบผู้นำที่เด็ดขาดและอาจเชื่อมันในความคิดของตนมากจนนักงานไม่กล้าแสดงความคิดเห็น และเลือกที่จะปฏิบติตามเท่าที่ได้ดีกว่าจะเสี่ยงแสดงความคิดเห็นต่างกับเจ้านาย และหากมีเหตุการณ์ที่ผู้บริหารแสดงพฤติกรรมตัดสินใจตามอารมณ์มากกว่าเหตุผล หรือไม่ให้เกียรติพนักงานหรือบุคคลภายนอกร่วมด้วยแล้วล่ะก็ ตัวอย่างเหล่านั้นจะยิ่งทำให้แม่แต่ผู้ที่เป็นะนักงานที่มีความสามารถก็จะเลือกใส่เกียร์ว่าง หายใจเบาๆ รอทำตามคำสั่ง ไม่แตกแถว ตราบเท่าที่ยังหางานใหม่ไม่ได้
อ่านบทความต่อได้ที่ https://i-kinn.com/work-clinic/ep-13-leader_growth/
Comentários